ถ้าพูดถึงโปรแกรมปรับแต่งรูปภาพ อันดับแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดของเราทุกคนก็คงหนีไม่พ้น Adobe Photoshop แน่ๆ
แต่ต่อมา Adobe ก็ได้ปล่อยซอฟท์แวร์จัดการรูปภาพอีกตัวหนึ่งขึ้นมา
ชื่อเสียงเรียงนามก็น่าจะคุ้นหูหลายๆ คนดี นั่นก็คือ Adobe Lightroom ยังไงล่ะ
ทีนี้จึงเกิดคำถามตามมาว่า ในเมื่อทั้งสองโปรแกรมนี้ต่างก็ใช้กับการจัดการรูปภาพเหมือนกัน
แล้วมันเหมือนหรือต่างกันยังไง โปรแกรมไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา
Motion Graphic Plus จึงจะพาทุกท่านไปหาคำตอบเองค่ะ
โดยจะวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียของ Photoshop และ Lightroom เป็นข้อๆ กันเลย
ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับซอฟท์แวร์สองตัวนี้กันก่อนดีกว่า
Adobe Photoshop
เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ.1990 ใช้ในการทำกราฟิกจำพวก Pixel (ไฟล์ภาพระบบ Raster/Bitmap)
จุดเด่นคือมีการทำงานเป็นระบบ Layer หรือการแบ่งภาพออกเป็นชั้นๆ
จุดเด่นของ Photoshop | จุดอ่อนของ Photoshop |
ทำงานด้วยระบบ Layer คือสามารถเก็บภาพหลายๆ ภาพ ที่มีความแตกต่างกันไว้ในไฟล์เดียว โดยแต่ละภาพจะทับกันเป็นชั้นๆ หรือเป็นเลเยอร์นั่นเอง |
เพราะมีเครื่องมือปรับแต่งภาพที่ครบครัน จึงค่อนข้างใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนจนชำนาญ |
เมื่อมีเลเยอร์ จึงสามารถใช้ Blending Mode สร้างสรรค์ภาพได้หลากหลาย |
ไม่สามารถปรับแต่งภาพครั้งละมากๆ |
เครื่องมือมากความสามารถ ไม่เพียงแต่จะปรับแต่งสีของภาพเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการรีทัช ไดคัท ตัดต่อแบบต่างๆ ไปจนถึง Digital Painting หรืองาน 3D |
หากจะจัดการกับไฟล์ RAW จะต้องพึ่งพาตัวซอฟท์แวร์เสริม อย่างเช่น ACR |
Adobe Lightroom
เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ.2007 เป็นโปรแกรมจัดการภาพถ่ายปริมาณมากๆ
จุดเด่นคือรองรับการจัดการไฟล์ RAW (ไฟล์ภาพแบบดิบจากตัวกล้อง ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้ได้จนกว่าจะแปลงเป็นไฟล์ JPG)
จุดเด่นของ Lightroom | จุดอ่อนของ Lightroom |
ยอมรับไฟล์ภาพ RAW โดยตรงจากล้องถ่ายภาพ สามารถปรับแต่งไฟล์ RAW ได้โดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเสริม |
ไม่มีการจัดการระบบ Layer เหมือน Photoshop ทำให้ไม่สามารถ Blending ภาพหนึ่งกับอีกภาพหนึ่งได้ |
ทำความเข้าใจและเรียนรู้โปรแกรมได้ง่าย เพราะไม่มีกล่องเครื่องมือมากเหมือน Photoshop |
เครื่องมือแก้ไขปรับแต่งภาพไม่ล้ำหน้าเท่า Photoshop เพราะถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับปรับแต่งแสงสี และแก้ไขภาพเพียงเบื้องต้นเท่านั้น |
ฟังก์ชั่นเหมาะสำหรับการปรับแต่งแสงสีและภาพถ่าย มี Catalog ช่วยจัดการรูปภาพ สะดวกต่อการแต่งภาพครั้งละมากๆ |
ใช้กับงานภาพถ่ายหรือรูปภาพได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น |
ทีนี้ก็พอจะรู้กันแล้วว่า Photoshop นั้นเหมาะกับงานแก้ไขรีทัชภาพ แต่ไม่เน้นด้านการปรับแสงภาพจำนวนมากๆ
ส่วน Lightroom นั้นจะตรงข้ามกับ Photoshop คือมีเครื่องมือไม่หลากหลาย
แต่ใช้งานง่ายและเหมาะกับการดึงรูปจากกล้องถ่ายภาพมาปรับแต่งแสงสีให้สวยขึ้นนั่นเอง
ก็ลองชั่งน้ำหนักดูนะคะว่าการทำงานของเราเหมาะกับโปรแกรมตัวไหนมากกว่ากัน
เพราะแต่ละโปรแกรมก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป
และสำหรับท่านใดที่อยากรู้เทคนิคดีๆ ในการทำงาน Graphic Design อย่างละเอียด
รวมไปถึงเรียนรู้หลักการออกแบบควบคู่ไปกับการใช้โปรแกรม illustrator + photoshop
สามารถคลิ๊กที่ภาพข้างล่างนี้เพื่อดูรายละเอียดได้เลยค่ะ
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่
http://facebook.com/MotionGraphicTH
สนใจเรียนสามารถ Add line ID : @MotionGraphic
เพื่อสอบถามและสมัครได้เลยค่ะ (อย่าลืมใส่ @ นะคะ)